'ชัยชนะ' เหน็บ 'พท.' หาแพะรับบาป หลังโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่คืบ

'ชัยชนะ' เหน็บ 'พท.' หาแพะรับบาป หลังโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่คืบ

‘ชัยชนะ’ เหน็บ ‘โครงการดิจิทัลวอลเล็ต’ มีความคืบหน้าในการหา ‘แพะรับบาป’   แนะเอาโครงการคนละครึ่ง มาปรับปรุง

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนโยบาย เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของรัฐบาล ว่า  โครงการดังกล่าวมีความหน้าในการหาแพะรับบาป โดยแพะตัวแรกที่สังเวยไปแล้วคือ กฤษฎีกา เพราะเมื่อมีความเห็นทางกฎหมายออกมาว่า ต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กลายเป็นว่า มวลชนที่สนับสนุนโจมตีกฤษฎีกา ต่อมามีแนวคิดที่จะใช้เวทีรัฐสภาตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตนรู้ว่ารัฐบาลต้องการโยนบาปให้  ส.ส. ที่ไม่เห็นด้วยและลงมติไม่เห็นชอบ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างเพื่อให้ประชาชนโกรธแค้น

นายชัยชนะ กล่าวว่า ล่าสุดที่พรรคเพื่อไทยถึงกับเล่นใหญ่ โดยระบุว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นอุปสรรคในการทำงาน และพรรคเพื่อไทยพยายามให้ประชาชนเข้าใจว่า  ธปท. เป็นอุปสรรคในการดำเนินนโยบาย

"ความสัมพันธ์ระหว่าง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ราบรื่นนัก ผมเห็นว่า การนำสิ่งที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว อย่างเช่น โครงการคนละครึ่ง มาปรับให้เกิดความเหมาะสม  ส่วนข้อบกพร่องของโครงการคนละครึ่งที่เจ้าของร้านค้าเกรงว่า จะต้องเสียภาษีเพิ่มเติมนั้น รัฐบาลก็ต้องหามาตรการจูงใจให้คลายกังวลเ” นายชัยชนะกล่าว 

นายชัยชนะ กล่าวด้วยว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต พรรคเพื่อไทยอวดอ้างว่า จะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจถึง 4 ลูก แต่ในความเป็นจริง นโยบายดังกล่าว กลายเป็นพายุหมุนที่ทำให้รัฐบาลไม่สามารถเดินหน้าต่อไปตามที่คาดหวัง ทั้งนี้ในประเด็นการหาแหล่งเงินทุน ซึ่งไปตกที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ถือว่า รัฐบาลเกิดอาการเข้าตาจน

"อย่าลืมว่า ขณะนี้รัฐบาลยังคงค้างหนี้ใน โครงการจำนำข้าว อยู่อีก 2.4 แสนล้านบาท และยิ่งก่อหนี้ตามนโยบายดังกล่าว ซึ่งคาดว่า จะใช้งบ 1.7 แสนล้านบาท รัฐบาลก็จะติดหนี้ ธกส. 4.1 แสนล้านบาท รวมทั้ง จะต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาที่ว่า ใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ ไม่นับเสียงคัดค้านที่มาจากทุกสารทิศ  เป็นโครงการที่เข้าทำนอง ได้ไม่คุ้มเสีย  หากดันทุรังไปจนถึงปลายทางแล้วพรรคเพื่อไทยอาจจะได้รับคะแนนนิยมจนชนะการเลือกตั้ง แต่ทิ้งความเสียหายให้กับประเทศเป็นจำนวนมาก ยิ่งเอาเงินจริงไปผูกกับความผันผวนในตลาดเงินดิจิทัลแล้ว ถือเป็นการเอาอนาคตประเทศไปแขวนอยู่กับเส้นด้ายที่บอบบางเป็นอย่างมาก" นายชัยชนะ กล่าว.